การลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ
โรคเบาหวานสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัยปัจจุบันอัตราการเกิดโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 20 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะเป็นผู้สูงอายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของตับอ่อนที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนอินสุลินที่ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การที่อายุมากขึ้นยังอาจทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินสุลินหรือทำให้ฮอร์โมนอินสุลินออกฤทธิ์ได้น้อยลง ซึ่งโรคนี้มีความเสี่ยงและมีความอันตรายกับผู้สูงอายุมาก เนื่องจากมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนต่อหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง การป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบตันทำได้โดยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือด โดยการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการรับประทานของหวาน อาหารเค็ม และอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะต้องรับประทานยาลดระดับน้ำตาล ยาลดความดันโลหิตหรือยาลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดร่วมด้วย
แนวทางการให้บริการเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ
1. ผู้รับบริการทุกคนที่เข้าพักในสถานพยาบาลได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น (โปรแกรมสำหรับผู้สูงอายุ) โดยได้รับส่วนลด 30 %
โปรแกรมสำหรับผู้สูงอายุ ได้รับการตรวจ (ราคารวม 1800 บาท ) ราคาพิเศษหลังได้รับส่วนลด 1 ,260 บาท/คน
1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. เอ็กซเรย์เพื่อดูสภาพปอดและหัวใจ
3. ตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
4. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
5. ตรวจปัสสาวะอย่างสมบูรณ์
6. ตรวจหาน้ำตาลในเลือด
7 ตรวจหาระดับไขมันในเลือดสมบูรณ์แบบ
8. ตรวจการทำงานของไต
9. ตรวจการทำงาานของตับ
10. ตรวจระดับกรดยูริค
2. ดำเนินการในเรื่องการลดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยกำหนดให้มีบริการตรวจจอประสาทตา ตรวจการทำงานของไต และตรวจเท้า ( ผู้รับบริการที่พักอาศัยในสถานพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรังกล้วยน้ำไท 2 ได้รับบริการฟรี ปีละ1 ครั้ง )
2. มีแนวทางในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานอย่างต่อเนื่อง โดยบุคลากรที่มีศักยภาพและทักษะการจัดการและบริการ เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
3. กลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ทั้งในส่วนของการดูแลตนเอง การได้รับบริการจากสถานพยาบาล และการดูแลต่อเนื่องระดับตติยภูมิอย่างเหมาะสม